empty
 
 

การซื้อขายด้วย CFD

CFD คือ สัญญาการซื้อขายส่วนต่าง

ตลาดฟอเร็กซ์นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างยาวนานกับการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศที่มีความผันผวนที่สูง และยังช่วยสร้างผลกำไรเป็นจำนวนมากอีกด้วย ยังมีตราสารการซื้อขายบางประเภท ซึ่งไม่มีความผันผวน แต่ก็ยังสามารถสร้างผลกำไรที่ดีได้ นอกจากนั้นข้อดีของตราสารเหล่านี้ ก็คือ มันจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอการลงทุน และ ใช้งานมันไปกับสินทรัพย์ที่หลากหลายได้ โดยมันจะยังรวมถึงสัญญาของส่วนต่าง (CFDs) ในหุ้นของบริษัทชั้นนำในระดับโลก

อะไรคือสัญญา CFD?

CFD เป็นสัญญาส่วนต่าง ในราคาที่จะเกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อ และผู้ชาย ผ่านทางตัวกลางนั้นก็คือโบรกเกอร์ สำหรับสินทรัพย์ในสัญญาส่วนต่าง อาจจะเป็นหุ้น, พันธบัตร, ทองคำ, น้ำมันดิบ, เงิน และทองแดง รวมทั้ง ดัชนีหุ้นใหญ่ๆ อย่างเช่น ดาวโจนส์, DAX, NASDAQ และ S&P ดังนั้นมันยังรวมถึงสกุลเงินระดับโลก และสินทรัพย์ที่มีความผันผวน โดยตราสารทางการเงินเหล่านี้ไม่ได้ใช้งานกับการซื้อขายสินทรัพย์แบบจริง มันจะช่วยให้นักลงทุนจากภาคเอกชนมีโอกาสในการสร้างรายได้จาก ความผันผวนของอัตราในตลาดหลักทรัพย์ สำหรับเทรดเดอร์ที่ซื้อสัญญา CFD ในสินทรัพย์ที่เลือกมาแล้ว และทำการขายมันออกไป ก็จะได้ผลกำไรจากส่วนต่างในราคานั้นๆ

สัญญาประเภทนี้ได้ปรากฎตัวออกมาครั้งแรกใน ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ในช่วงตอนต้นของปี 90 ในศตวรรษที่ผ่านมา ต่อจากนั้น การซื้อขายสัญญา CFDs ก็ได้มาอยู่ในโลกออนไลน์ ที่มาจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี และจุดประกายให้เกิดความสนใจในนักลงทุนของภาคเอกชน

CFDs ในหุ้นเป็นสัญญาส่วนต่างที่ สินทรัพย์อ้างอิงนั้นๆ เป็นหุ้นของบริษัทชั้นนำในระดับโลก อย่างเช่น Apple, Amazon, Microsoft, Google และอื่นๆอีกมากมาย โดยหุ้นจะมีมูลค่าตามตลาดหลักทรัพย์หลักๆ และตลาดตราสารหนี้ที่มีการซื้อขายโดยตรง

แนวคิดพื้นฐานของสัญญาCFDs นั้นเรียบง่าย นั้นก็คือการทำกำไร สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทราบว่า ส่วนต่างระหว่างราคาในปัจจุบันและราคาในอนาคตจะอยู่ในช่วงบวกหรือลบ นั้นเอง

จะใช้งานอย่างไร?

การวิเคราะห์ชาร์ต ได้แสดงให้เห็นว่า หุ้นของ Boeing มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น
เทรดเดอร์จะพบได้ถึง ตำแหน่งขาเข้า
พวกเขาจะเปิดสัญญาแบบการซื้อ
พวกเขาจะรอคอยการปรับตัวขึ้น ในหุ้นของ Boeing
พวกเขากำหนดผลกำไร
แนวทางพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะมีผลเท่าเทียมกัน ในการสร้างการคาดการณ์ ตราสารจำนวนมากที่มีให้บริการก็จะช่วยให้เทรดเดอร์คาดการณ์ได้ถึงการเคลื่อนไหวของราคา โดยรวมแล้ว การซื้อขายด้วย CFDs คล้ายกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนข้อแตกต่างก็คือ นักเก็งกำไรจะใช้งานล็อต และจะสามารถวางสัญญาแบบทั้งการซื้อและขายได้ โดยพวกเขาจะซื้อขาย ไม่ใช่ด้วยตราสารแต่เป็นราคาของพวกมัน

การซื้อขายด้วย CFD

สัญญาการซื้อขายส่วนต่างมีข้อดีอย่างมากมาย เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ สำหรับสัญญา CFDs เหมาะสมกับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และที่เชี่ยวชาญแล้ว โดยผู้ที่เชี่ยวชาญแล้วนั้นจะใช้ CFDs เพื่อเป็นตัวเลือกอื่นๆ ในการเข้าไปในตลาดหุ้น มาลองพิจารณากันว่าทำไมเทรดเดอร์ถึงต้องการซื้อขายด้วย CFDs มากกว่าสินทรัพย์แบบพิเศษ

ข้อจำกัดไม่มากสำหรับการฝากเงินครั้งแรก ข้อจำกัดขั้นต่ำสำหรับการซื้อขาย CFD นั้นน้อยกว่าในตลาดหลักทรัพย์
โอกาสในการใช้งานเลฟเวอร์เรจ เลฟเวอร์เรจจะช่วยให้นักลงทุนทำการซื้อขายในปริมาณที่มากกว่าเดิม พร้อมกับการลงทุนเพียงเล็กน้อย
สร้างผลกำไรจากการที่ตลาดได้ปรับตัวลง ในกรณีนี้ นักลงทุนจะสามารถขายสัญญา CFD ไปได้อย่างเช่น เปิดสัญญาแบบการขาย
การซื้อขายมูลค่าแบบไลฟ นักลงทุนสามารถเปิดสัญญาในราคาที่ดีที่สุด
การให้บริการ สัญญาสำหรับการซื้อขายส่วนต่างจะอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันกับ การซื้อขายฟอเร็กส์ ที่มีความคล่องตัวอย่างมากสำหรับเทรดเดอร์
ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา การซื้อขายด้วยสัญญา CFDs ในหุ้นนั้นไม่มีข้อกำหนดในชั่วโมงการทำการในตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอน หรือนิวยอร์ก
ความเป็นไปได้ของการป้องกันความเสี่ยงมีการกำหนดคำสั่งซื้อหนึ่งครั้ง และคำสั่งการขายหนึ่งครั้ง โดยที่นักลงทุนสามารถมั่นใจถึงความปลอดภัยของเงินและผลกำไรที่จะเพิ่มขึ้นมาเท่าตัวได้ทั้งคู่
การซื้อขายด้วย CFDs ไม่มีความจำเป็นต้องจ่ายภาษี เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษีอื่นๆ หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่จะถูกเก็บในตลาดหลักทรัพย์
ตัวเลือกมากมายในตราสารการซื้อขาย การซื้อขายด้วย CFDs จะทำให้เข้าถึงหุุ้นจากบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่งได้
ไม่มีช้อกำหนดการซื้อขายในแต่ละวัน ตลาดบางแห่งจะใช้งานข้อกำหนดด้านทุนออกมาเพื่อจำกัดการซื้อขายในแต่ละวัน แต่ สำหรับ CFDs นั้นไม่มีการจำกัด

ซื้อขายแบบ Buffett และรับผลกำไรจากการซื้อขายหุ้น

ตัวอย่างเช่น มาลองดูถึงวิธีการที่จะสร้างรายได้จากส่วนต่างในด้านราคาของหุ้น Apple ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก มันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม และการออกแบบอันเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์นี้ ทาง Apple ได้มีชื่อเสียงอย่างมากมาย และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่มากที่สุด ซึ่งหุ้นของบริษัทปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนได้เพิ่มขึ้นมามากกว่า 265% จากในปี 2014 จนถึงปี 2016 นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปี 2017 หุ้นในบริษัท Apple เพิ่มขึ้นมาถึง 48% ในวันที่ 5 เดือนกันยายน ปี 2017 นั้นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 850 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจากวิดิพีเดีย

นักลงทุนขั้นเซียนอย่าง คุณ Warren Buffett สร้างรายได้ไปมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในหุ้นของ Apple ในเวลาเพียง 6 สัปดาห์

คุณ Buffett ได้ลองทำการลงทุนครั้งแรกในไตรมาสแรกของปี 2016 โดยบริษัทของเขา Berkshire Hathaway ได้ซื้อพอร์ตโฟลิโอของหุ้นเป็นจำนวนถึง 9.8 ล้านหุ้น ภายในไตรมาสที่สอง นักลงทุนได้ซื้อหุ้นมาอีกถึง .5.42 ล้านหุ้นในราคาจาก 90 ดอลลาร์สหรัฐ จนถึง 112ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าคุณ Buffet ได้สร้างเงินถึงพันล้านดอลลาร์ด้วยการลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี แต่เขาก็ยังคงซื้อหุ้นต่อเนื่องเพื่อสร้างผลกำไร จนถึงช่วงปลายปี 2016 บริษัทBerkshire มีหุ้นรวมอยู่ประมาณ 61.2 ล้านหุ้น พร้อมกับราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 106-118 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2017 นั้นเอง คุณ Buffett ได้เพิ่มส่วนแบ่งของเขาขึ้นเท่าตัวใน Apple (มีการซื้อไปในระดับราคาที่ 116-122 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น )

มันไม่ได้เป็นเรื่องยากที่จะมาคำนวณว่า คุณ Buffett ทำเงินไปได้เท่าไหร่จากการลงทุน แน่นอนว่าเขาต้องมียอดรวมของเงินมหาศาลในการซื้อหุ้นบริษัทบางแห่งได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นในการลงทุนในหุ้น นั้นก็คือ ทำการซื้อสัญญา CFDs ในหุ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์ เพราะว่ามีโอกาสสุดพิเศษในการเก็บเกี่ยวผลกำไรจากส่วนต่างในมูลค่าของหุ้น

วิธีการสร้างรายได้ โดยไม่ต้องการซื้อสินทรัพย์และ ความสำคัญของการซื้อขายด้วยCFD

นับตั้งแต่ปี 2017 หุ้นของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ชั้นนำในระดับโลก พุ่งทะยานขึ้นมา 48% จนถึง 172.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น อย่างแรกก็คือ จากผลประกอบการที่ดีขนาดนั้น มันได้ช่วยส่งเสริมต่อการปรับตัวขึ้นโดยรวมในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ในช่วงที่มีการฟื้นตัวขึ้นมาทั้งเศรษฐกิจของอเมริกา แล้วในระดับโลก สำหรับนโยบายทางการเงินที่เป็นกลางของธนาคารกลางส่วนใหญ่ ได้ช่วยสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของหุ้น ตามความเป็นจริงแล้ว ดัชนีดาวโจนส์ ได้ปรับตัวขึ้นไปถึง 14.96% จนมาถึงทุกวันนี้

อย่างที่สอง การปรับตัวขึ้นในหุ้นของ Apple ได้รับแรงหนุนจาก การเริ่มต้นการขาย iPhone Х ถ้าหากลูกค้าของทางเราได้ซื้อสัญญา CFDs ในหุ้นของ Apple ไว้แล้ว การลงทุนเพียง 10% ของต้นทุนทั้งหมด (เลฟเวอร์เรจสูงสุดในการซื้อขายด้วยสัญญา CFDs ในหุ้นนั้นจะอยู่ที่ 1:10) โดยมันจะไปช่วยเพิ่มยอดเงินขึ้นมา 40.3% ในเดือนตุลาคมของปี 2017 แล้วจะช่วยทำให้เงินฝากของพวกเขาอยู่ใร $1,000

สิ่งสำคัญกว่านั้น หุ้นของ Apple ปรับตัวลงในทุกปี ก่อนหน้าที่จะมีการนำเสนอ iPhone รุ่นใหม่ออกมา แต่หลังจากนั้น มันก็จะเริ่มปรับตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในปี 2017 นักลงทุนได้ผิดหวังจากการนำเสนอ iPhone X ดังนั้นหุ้นของ Apple จึงร่วงลงมาจากระดับสูงในรอบวันที่ 163.54 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 159.51ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหุ้น สำหรับการนำเสนอไอโฟนรุ่นใหม่ได้ถูกเลื่อนออกไปยังวันที่ 3 เดือนกันยายน ซึ่งเคยได้สร้างปฏิกริยาเชิงลบออกมา ทางด้านสื่อได้รายงานว่า ทางบริษัทได้เลื่อนระยะเวลาเริ่มต้นในการผลิตเป็นเดือนกว่า เนื่องจากความขัดข้องทางเทคนิค ดังนั้นทางบริษัทจึงต้องจ้างพนักงานใหม่เข้ามาในฐานการผลิตที่ประเทศจีน เพื่อให้ทันตามตารางที่วางไว้

If traders had sold CFDs on Apple stocks, investing only 10% of the total cost of shares (at the leverage of 1:10) with a deposit of USD 1,000, they would have earned 89.7% of the initial deposit (USD 897) by the start of sales of IPhone 8. If traders had bought Apple stocks after the start of sales, investing the same 10% of the total cost with a deposit of USD 1,000, they would have earned 212% of the initial deposit (USD 2,120) after closing a deal on the day when iPhone X went on sales.

ชาร์ตมูลค่าของ Apple

Apple

การซื้อขายด้วย CFDs ในหุ้นนั้นจะเริ่มต้นจากตรงไหน

CFDs ในหุ้น ไม่ได้มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มันจะแสดงให้เห็นถึงการจัดการระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ที่ได้ซื้อขายกันในการซื้อขายโดยตรง ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์จะดำเนินงานผ่านทางคอมมิชชั่น และแลกเปลี่ยนข้อตกลงกัน เนื่องจากสัญญา CFDs จะช่วยให้การเก็งกำไรง่ายขึ้น ต่อการปรับตัวขึ้น หรือปรับตัวลงในราคา โดยไม่เกี่ยวข้องกับทิศทางของสินทรัพย์ชนิดนั้นๆ ทางด้านโบรกเกอร์เองก็จะเป็นฝ่ายกลางในกระบวนการนี้

ในการซื้อขายสัญญาส่วนต่างให้ประสบผลสำเร็จนั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน CFD หนึ่งในบริษัทที่ดีที่สุดในเวทีส่วนนี้ก็คือ InstaForex.

ทำไมถึงต้องเลือก InstaForex?

  • การเลือกตราสารการซื้อขายจำนวนมาก (CFDs ถึง 88 ประเภทในหุ้นของอเมริกา ) ลูกค้าของทาง InstaForex มีโอกาสที่จะสามารถมีสัญญาในดัชนีหุ้นระดับโลก, หุ้นในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา รวมทั้งในสินค้าโภคภัณฑ์
  • Leverage is up to 1:10. This ensures low margin requirements - from 1%. Depending on the underlying asset (for example, shares) margin requirements do not exceed 10%, allowing traders with small initial capital to get access to the markets that were not available to them.
  • ไม่มีข้อกำหนดในจำนวนของเงินฝาก โดยการซื้อขายจะสามารถทำได้ตั้งแต่ 1ดอลลาร์สหรัฐ ในบัญชี
  • การเข้าถึงตลาดได้ทั้งหมดจากแพลตฟอร์มเดียว ทาง InstaForex จึงขอนำเสนอแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในระดับโลกอย่าง MetaTrader 4 และเวอร์ชั่นที่พัฒนาอย่าง MetaTrader 5
  • การวิเคราะห์ที่สดใหม่ แล้วทันทุกช่วงเวลา, คอร์สการอบรวมการซื้อขาย และสัญญาณที่เทรดเดอร์มือใหม่สามารถใช้งานได้
  • โบรกเกอร์ที่พยายามที่จะพิสูจน์ถึงน่าเชื่อถือออกมาให้เห็น ทางInstaForex ได้รับความไว้วางใจจากเทรดเดอร์มากกว่า 7 ล้านคนจากทั่วโลก และจำนวนนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน
  • โอกาสในการใช้บัญชีเดิมในการซื้อขาย CFDs, สกุลเงิน และตราสารประเภทอื่นๆ

สิ่งสำคัญที่ควรทราบ: เงื่อนไขของการซื้อขายด้วย CFDs ของทาง InstaForex จะมีข้อกำหนดมาร์จิ้นขั้นต่ำและ คอมมิชชั่น, สเปรดแบบกำหนดค่า รวมทั้ง โอกาสในการใช้งานตำแหน่งในระยะยาวแบบยังไม่ระบุเวลา

หากไม่สะดวกคุยในตอนนี้
ระบุคำถามไว้ได้ใน แชท.
Widget callback