14.11.201902:53:00UTC+00การเติบโตของจีดีพีในประเทศญี่ปุ่นอยู่ในระดับต่ำในรอบ 1 ปี

เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นขยายตัวในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบหนึ่งปี ในรอบไตรมาสที่สามเนื่องจากสงครามการค้า และเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออก และการบริโภคของภาคเอกชนให้ลดลงไป ข้อมูลตัวเลขจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีที่ได้นำเสนอข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศปรับตัวขึ้นมา 0.2% ในรอบปีทุกไตรมาส ตามการปรับตัวขึ้นมา 1.8% ในไตรมาสที่ 2 นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ามีการขยายตัวขึ้นมาถึง 0.8% จีดีพีเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.1% ในแต่ละไตรมาสหลังจากที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 0.4% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวเกิดขึ้นมาถึง 0.2% การขยายตัวล่าสุดนับว่าเกิดขึ้นมาน้อยที่สุด นับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สามของปี 2018 เมื่อเศรษฐกิจมีการหดตัว การเติบโตในการบริโภคของภาคเอกชนลดลงไป 0.4% จากเดิมใน 0.6% อัตราการเติบโตในส่วนของการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนลดลงไปอยู่ที่ 0.3% ถึงแม้ว่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการปรับขึ้นภาษีด้านการบริโภคในเดือนตุลาคม การส่งออกลดลงไปอยู่ที่ 0.7% ในรอบไตรมาส ซึ่งลดลงไปถึง 0.2 จุดจากยอดการเติบโตจีดีพี อุปสงค์ภายในประเทศเพิ่มขึ้นมา 0.2 จุดในช่วงการเติบโต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงเหลือของภาคเอกชนลดลงไป 0.3 จุดจากจีดีพี การขยายตัวของการสะสมทุนถาวรลดลงไป 0.9% จากเดิมอยู่ที่ 1% ข้อมูลจีดีพีที่ไม่ค่อยดีจะช่วยกระตุ้นให้เกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้น ทางด้านรัฐบาล Shinzo Abe ได้ส่งสัญญาณแล้วว่ากำลังมีการวางแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวมาจากผลกระทบของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นล่าสุด และผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก คุณ Robert Carnell นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน ING ได้กล่าว ไว้ว่า “จากประสบการณ์แล้ว กระบวนการดังกล่าวไม่จำเป็นต้องมีการตอบสนองล่วงหน้าใดๆ เนื่องจากมันมักจะหมายถึงหลายสิ่งกำลังแย่ลงไปมากกว่าที่คุณเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้” "และพวกเราไม่สามารถคาดหวังถึงความช่วยเหลือที่สำคัญใดๆ ต่อการเติบโตจากธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแม้ว่าจะมีการประท้วง แต่ในทางตรงกันข้าม ก็หมดท่าแล้วในมุมมองของพวกเรา"