ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในการปฏิรูปภาษี,การเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงทางการเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลาง และการเยือนเอเชียของนาย Donald Trump ได้ทำให้แนวโน้มขาขึ้นในทองคำเพื่อยับยั้งฝ่ายตรงกันข้ามที่สวนทางกัน แล้วยังมีข่าวลือออกมาในตลาดว่าในช่วงเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางระบบการคลัง ในสหรัฐอเมริกา อาจจะถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกายังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ ถ้าหากลองเพิ่มการกระตุ้นลงไปในนี้แล้ว มันอาจจะทำการเพิ่มความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อที่จะตามมา และภาวะถดถอยทางการเงินในอนาคต เนื่องจากในสถานการณ์ตอนนี้ มีควาไม่แน่นอนที่ว่าการปฏิรูปจะผ่านไปได้อย่างสำเร็จในสภา โดยพรรคเดโมแครทไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมาย เพราะว่ามันก่อให้เกิดการสูญเสียในชนชั้ยกลาง ขณะที่ก็มีคนจำนวนหนึ่งในพรรครีพับลิกันที่ไม่เห็นด้วยเพิ่มขึ้นมา โดยรวมแล้ว การปรับระบบภาษีถูกมองว่าเป็นปัจจัย "ในแนวโน้มขาขึ้น" สำหรับทองคำดังนั้นแล้ว ปัญหาในการดำเนินการที่จะช่วยให้ผู้ซื้อของคู่ออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) อาจมีการปรับตัวขึ้นมาได้

นักลงทุหลายคนได้ทำการเพิ่มระดับหุ้นของสินทรัพย์แบบปลอดภัยในพอร์ตการลงทุน แล้วมองดูรายงานการเคลื่อนไหวของตะวันออกกลาง สำหรับการจับกุมในประเทศซาอุดิอาระเบีย, การจู่โจมในริยาดจากกลุ่มผู้ประท้วงในเยเมน, ความขัดแย้งระหว่างตุรกีและคูดิซสถาน และการไม่เห็นด้วยของนาย Donald Trump ของการตัดสินใจสำหรับโปรแกรมทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศอาหร่าน ที่ได้ผลักดันราคาน้ำมันและพันธบัตรให้เพิ่มสูงขึ้น ส่วนอัตราผลตอบแทนเองก็อยู่ภายใต้แรงกดดัน ซึ่งจะมีการปรับระดับเกิดขึ้น แล้วยังสร้างผลกระทบในโลหะมีมูลค่า

กระแสการเคลื่อนไหวของทองคำ และอัตราผลตอบแทนในพันธบัตรสหรัฐอเมริกา

แหล่งที่มา: Trading Economics.

ปัจจัยอื่นในการสนับสนุนทองคำก็คือ การเดินทางของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ไปยังเอเชีย ในประเทศญี่ปุ่น โดยที่นาย Trump ได้ออกมากระตุ้นนักธุรกิจในประเทศ ซึ่งกล่าวว่าพวกเขานั้นมี การซื้อขายที่ไม่ได้สร้างผลทางพาณิชย์และไม่มีการสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นข้อดี ในประเทศจีน ทางประธานาธิบดีได้ยกประเด็นเกี่ยวกับ การยกเลิกความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างปักกิ่ง และประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจของประเทศเกาหลีเหนือ ทางเราขอออกมาแจ้งให้คุณทราบถึงการปรับตัวขึ้นมาอย่างมากเกือบ 12% ของคู่ออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของปีนี้ ที่มีความตึงเครียดทางการเมืองในคาบสมุทรเกาหลี และนโยบายด้านการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกา

ในเวลาเดียวกัน จากทางด้านการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคนั้น สถานการณ์โลหะมีมูลค่าไม่ค่อยดีนัก ขณะที่สกุลเงินยูโรและยอด GDP ของประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวขึ้นมามากกว่าแนวโน้ม โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาได้มีการขยายตัวขึ้นมาถึงร้อยละ 3 หรือมากกว่าสองไตรมาสติดต่อกัน แล้วยังมีการเตรียมการปรับอัตราขึ้น ในกรณีนี้สำหรับการปฏิรูปภาษีนั้น นักลงทุนหลายคนต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง นอกจากนั้นแล้วอัตราเงินเฟ้อในระดับโลกเองก็มีการเติบโตที่ชะลอตัวลดลงไป ดังนั้นแล้ว อัตราของตลาดในระดับโลกจึงต้องมีข้อกำหนดเบื้องต้นบางอย่างก่อน ที่จะเกิดการเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งมองว่าเป็นปัจจัย "ในแนวโน้มขาลง" สำหรับคู่ออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD)

ในความเห็นของทางเรามองว่า สถานการณ์ในตะวันออกกลางจะทรงตัวมากขึ้น แล้วการขาดความขัดแย้งกับทางประเทศเกาหลีเหนือ และการดำเนินการปฏิรูปภาษี ผ่านทางสภา อาจจะเพิ่มอุปสงค์สำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐ แล้วคืนมูลค่าอ้างอิงของสัญญาซื้อขายโลหะมีมูลค่าในช่วงแนวโน้มระยะสั้นขาลง

การทดสอบทางเทคนิคที่ประสบผลสำเร็จของจุดกำหนดด้านบนของ ระยะการสร้างฐานที่ 1262-1281เหรียฐต่อออนซ์ จะเพิ่มความเสี่ยงของราคาทองคำที่จะปรับตัวขึ้นมาไปหา $1,299 และ$1,320 ในทางตรงกันข้าม สำหรับการเคลื่อนตัวทะลุผ่านแนวรับที่ $1262 จะช่วยให้ "แนวโน้มขาลง" มุ่งไปหาเป้าหมานใน 161.8% และ200%สำหรับกราฟรูปแบบ AB=CD

แผนผังรายวันของทองคำ