ยูโรโซน

สกุลเงินยูโรได้ใช้ข้อได้เปรียบจากการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา จากการดำเนินแผนการปฏิรูปภาษีผ่านทางคองเกรส เพื่อปรับตัวขึ้นมาจากการขาดทุนในช่วงหนึ่งเดือนกว่าๆที่ผ่านมา แต่ในการที่จะมาตั้งคำถามต่อแนวโน้มที่กลับตัวที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ที่เป็นความจำเป็นต่อบางสิ่งที่สำคัญ

อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงต่ำอยู่ การเติบโตด้านราคาในเดือนตุลาคมเองก็อยู่ในร้อยละ 0.1 สำหรับการเติบโตของตัวบ่งชี้พื้นฐานก็ชะลอตัวลดลงไปร้อยละ 0.9 ในรอบปี สำหรับตัวบ่งชี้ที่อ่อนแอเองก็มองหาความตั้งใจของธนาคารกลางแห่งยุโรป ในการดำเนินการยกเลิกนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย

ประธานของธนาคารกลางแห่งยุโรป คุณ Mario Draghi ออกมาแถลงการณ์ในทีประชุมของเมือง Frankfurt ที่ว่านโยบายที่ใช้อัตราดอกเบี้ยแบบต่ำนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายรับของ ธนาคารในยุโรป ซึ่งยังคงทรวตัวอยู่ในช่วงระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้ว ยังกล่าวเสริมอีกว่า โปรแกรมการซื้อสินทรัพย์กลับคืนมาอาจจะยังเกิดขึ้นอยู่ หลังจากช่วงเดือนกันยายนปี 2018 "ถ้ามันจำเป็น"

สกุลเงินยูโรเองก็มีการสูญเสียตัวกระตุ้นต่อการเติบโต เพื่อให้ขยับไปอยู่ในระดับอื่น โดยรวมแล้งมันยังคงเป็นที่น่ากังวลต่อทิศทางของการเคลื่อนไหว และการเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ เนื่องจากขาดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญออกมา โดยในวันพฤหัสบดีพบว่า การรายงานดัชนี PMI ของสถาบัน Markit ในยูโรโซนออกมา ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะอยู่ในแนวโน้มที่ดี พร้อมกับดัชนีการผลิตที่อยู่ใกล้กับระดับสูงในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา ส่วนดัชนีภาคการบริการเองยังอยู่ล้าหลังอย่างมาก

จากการรายงานก่อนหน้านี้ที่มีการรายงานออกมาจากทาง Ifo และ ZEW แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของความเชื่อมั่นด้านการบริโภคที่เพิ่มขึ้นมา โดยการเติบโตของดัชนี Markit เป็นที่คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะมีส่วนสนับสนุนสกุลเงินยูโร

นอกจากนั้นแล้วในวันพฤหัสบดี พบว่ามีการรายงานของการประชุมธนาคารกลางแห่งยุโรปในวันที่ 26 ตุลาคมได้มีการรายงานออกมา จากความเห็นล่าสุดของนาย Draghi ที่ได้ระบุไว้ว่า ตลาดกำลังมองหาคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า แนวโน้มของการประกาศวันที่ในการดำเนินการบรรลุโปรแกรม การซื้อสินทรัพย์กลับคืนมา ที่จะมีการประกาศในการประชุม หลังจากมีการตอบคำถามนี้แล้ง อาจจะมีการเปลี้ยนแปลงแนวโน้มระยะยาวในสกุลเงินยูโร

สำหรับการเคลื่อนตัวทะลุผ่านเหนือระดับที่ 1.1850 พบว่าจำเป็นต้องมีเหตุผลมาสนับสนุนสกุลเงินยูโร อาจจะเป็นการสร้างฐานในระดับที่บรรลุไปแล้ว พร้อมกับการดำเนินการของกิจกรรมในแนวโน้มขาลง และการเคลื่อนตัวลงไปหาแนวรับที่ 1.16

สหราชอาณาจักรอังกฤษ

มีการรายงานด้านยอดการค้าปลีกที่ออกมาในวันพฤหัสบดั ที่ยังไม่อาจสร้างการสนับสนุนต่อสกุลเงินปอนด์ ถึงแม้ว่าสกุลเงินดอลลาร์เองก็มีกำลังเพิ่มมากขึ้นก็ตามที โดยยอดการค้าปลีกได้ปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.3 ในเดือนตุลาคม ซึ่งค่อนข้างสูงกว่าการคาดการณ์ทางตลาด แต่ก็ยังอยู่ในพื้นฐานประจำปี มันแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวลงมาในร้อยละ0.3 นั้นหมายความว่ากิจกรรมการบริโภคจะยังคงต่ำอยู่ ถึงแม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนปริมาณขิงสินค้าที่ขายก็ยังคงอยู่ในระดับเดิมกับปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาเดิมในภาคการบริโภค

น้ำมัน

น้ำมันจากระดับการเติบโตในรอบสัปดาห์ ได้มีการตอบสนองต่อการลดลงของภัยในการเริ่มดำเนินการในประเทศเวเนซูเอลา และการรายงานในรอบสัปดาห์ของนาย Baker Hughes อ้างอิงจากการปรับตัวขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ได้หยุดเพิ่มขึ้นมา พบว่าระดับปัจจุบันของมูลค่าอ้างอิงเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันค่อนข้างไม่มีความเพียงพอต่อการลงทุน และปราศจากแท่นขุดเจาะใหม่อีกด้วย มันจึงยากที่จะรักษาระดับการผลิตในระดับปัจจุบัน เนื่องจากอัตราการลดลงนั้นค่อนข้างสูง

ภัยของการปรับระดับนั้นได้ลดลงไปแล้ว แต่ก็มีโอกาสในการปรับตัวกลับขึ้นมาในระดับสูงในรอบสองปี ในทางตรงกันข้ามเองพบว่า ตลาดจะเตรียมรอการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมที่จะถึงของทางโอเปก และมีการคาดการณ์อีกถึงแนวโน้มโดยทั่วไปที่เหมาะสมกับน้ำมัน