ในปัจจุบัน ทางการของสหภาพยุโรป กำลังพยายามที่จะขยายเขตการค้าเสรี ให้ออกไปมากกว่าประเทศสมาชิกในแถบยุโรป ทางกรุงบรัสเซลส์ พิจารณาว่าประเทศในแถบเอเชีย มีแนวโน้มเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่น่าจับตามอง เมื่อวันที่ 30 เดือนมิถุนายน ปี 2019 ทางสหภาพยุโรปทำข้อตกลงกับประเทศเวียดนามมาสองฉบับ นั้นก็คือ ข้อตกลงการค้า และข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุน สำหรับสหภาพยุโรป นี่จะเป็นก้าวแรกสู่การร่วมมือระดับใหญ่ กับประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย

การเจรจาได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี ในที่สุดก็จบลงไปด้วยข้อตกลงทางการค้า ซึ่งจะค่อยๆ ลดอัตราภาษี ของการนำเข้าที่ร่วมกันได้ถึง 99%

ข้อตกลงอันสำคัญนี้ ได้มีการลงนามกันในกรุงฮานอย ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม อ้างอิงจากกรรมาธิการยุโรปเพื่อการค้า คุณ Cecilia Malmstrom ที่ระบุว่า สหภาพยุโรปเคยแสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง ต่อประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในปี 2016 พบว่า จำนวนจากการลงทุนในต่างประเทศ ภายในเศรษฐกิจของเวียดนาม เพิ่มสูงขึ้นมามากกว่า 8 พันล้านยูโร นอกจากนั้น ข้อตกลงใหม่ ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าจะยิ่งเป็นการผลักดันมากยิ่งขึ้น โดยข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนฉบับใหม่ จะมาแทนที่ข้อตกลงก่อนหน้านี้ทั้งหมด แล้วจะรับประกันความปลอดภัยเป็นพิเศษสำหรับการลงทุนในสหภาพยุโรป

ข้อตกลงทั้งสอง จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภายุโรป ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นที่ซับซ้อน ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรป กำลังจะประเมินข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดอยู่

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปและ หุ้นส่วนของอเมริกาใต้ ได้ทำข้อตกลงทางการค้าที่ใช้ระยะเวลารอคอยมาอย่างยาวนาน หลังจากที่มีการเจรจาผ่านไปถึงสองทศวรรษ ทางสหภาพยุโรปและ Mercosur กลุ่มอเมริกาใต้ ที่ประกอบไปด้วย ประเทศอาร์เจนตินา, บราซิล, ปารากวัย และอุรุกวัย ได้เห็นด้วยกันในเขตการค้าเสรี สำหรับกลุ่มประเทศพันธมิตร Mercosur มีความต้องการที่จะกำจัดภาษีนำเข้าในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา ในทางกลับกัน สหภาพยุโรปมีกำหนด ในการละเว้นกลุ่มประเทศพันธมิตรของ Mercosur จากภาษีการส่งออกส่วนใหญ่ มันจึงเป็นผลทำให้ บริษัทในสหภาพยุโรป จะประหยัดเม็ดเงินไปเกือบ 4 พันล้านยูโรต่อปี