กระทรวงแรงงานจากสหรัฐอเมริกา รายงานว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.7% ในเดือนมิถุนายนจากเดิมอยู่ใน 3.6% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่ปี 1969 ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นโดยรวมของหุ้นของลูกจ้างชาวอเมริกัน อัตราการมีส่วนร่วมหรือ ส่วนแบ่งของคนวัยทำงานในกำลังแรงงาน เพิ่มขึ้นมาอยู่ใน 62.9% จากเดิมใน 62.8%

ตัวเลขของการจ้างงานนอกภาคการเกษตรอย่างเป็นทาง แสดงให้เห็นถึง จำนวนตำแหน่งงานในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ที่พุ่งขึ้นมาเป็น 224,000 ตำแหน่ง ในเดือนมิถุนายน โดยข้อมูลตัวเลขนั้นมากเกินกว่าที่มีการคาดการณ์โดยรวมไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึง การปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยถึง 160,000ตำแหน่ง

การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ในเดือนมิถุนายน พิสูจน์ให้เห็นถึงสุขภาพของตลาดแรงงานสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้า

รายรับโดยเฉลี่ยต่อชั่วโมง ในสหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นมาเป็น 0.2% ในเดือนมิถุนายนเมื่อนำมาเทียบเป็นรายเดือน มันก็ยังกระตุ้นอัตราประจำปีมาเป็น 3.1% อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดทั้งสองของการเติบโตของค่าจ้าง ได้น้อยกว่าตามที่คาดการณ์ไว้ อันเนื่องมาจาก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า มันจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.3% ต่อเดือนและอีก 3.2% ต่อปี

ภาคการผลิตของสหรัฐอเมริกา เพิ่มงานใหม่เข้ามาเป็น 17,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ส่วนภาคเอกชนเปิดเผยว่า มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมาอย่าง โดยมีงานใหม่เข้ามาถึง 191,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ จำนวนงานในภาครัฐ ก็ยังเพิ่มขึ้นมาเป็น 33,000 ตำแหน่ง